tag:blogger.com,1999:blog-33834904510761145662024-03-05T01:15:22.998-08:00โปรแกรมภาษาซี♫ ♪ A p p l E ♫ ♪http://www.blogger.com/profile/14368934773581570373noreply@blogger.comBlogger9125tag:blogger.com,1999:blog-3383490451076114566.post-13210968506849685862009-08-29T18:56:00.001-07:002009-08-29T18:56:36.253-07:00ANSIสถาบันมาตรฐานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา หรือ แอนซี (American National Standard Institute - ANSI) คือองค์กรใน<a title="สหรัฐอเมริกา" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2">สหรัฐอเมริกา</a> มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ <a title="19 ตุลาคม" href="http://th.wikipedia.org/wiki/19_%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1">19 ตุลาคม</a> <a title="พ.ศ. 2461" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2461">พ.ศ. 2461</a> (ค.ศ. 1918) โดยใช้ชื่อว่า American Engineering Standards Committee และได้มีการปรับปรุงในปี <a title="พ.ศ. 2461" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2461">พ.ศ. 2461</a> (ค.ศ. 1928) โดยเปลี่ยนชื่อเป็น American Standards Association ในปี <a title="พ.ศ. 2489" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2489">พ.ศ. 2489</a> (ค.ศ. 1946) ได้มีการจัดตั้งองค์กรนานาชาติขึ้นมา โดยมีประเทศ 25 ประเทศเข้าร่วม และสุดท้ายในปี <a title="พ.ศ. 2512" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2512">พ.ศ. 2512</a> (ค.ศ. 1969) ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น American National Standard Institute หรือ ANSI ในปัจจุบัน♫ ♪ A p p l E ♫ ♪http://www.blogger.com/profile/14368934773581570373noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3383490451076114566.post-90589616843754046072009-07-18T00:16:00.000-07:002009-07-31T23:03:18.544-07:00แบบฝึกหัดการเขียน Flowchart<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhqspcDlt_WuHjgW7J2XMKZTDP0YK6KCtXl9NM9JgX9qRh2bQEvmphaPsuhWyG_0JZLEREBrFHGKIAWrCn3yuoJe14vs4QSlQd10Nj_WLuQ49z0l4miX4gOh9Zry3MNQpRF-wdW1Nakv6c/s1600-h/jeaw.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5364871882505792162" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 296px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhqspcDlt_WuHjgW7J2XMKZTDP0YK6KCtXl9NM9JgX9qRh2bQEvmphaPsuhWyG_0JZLEREBrFHGKIAWrCn3yuoJe14vs4QSlQd10Nj_WLuQ49z0l4miX4gOh9Zry3MNQpRF-wdW1Nakv6c/s320/jeaw.JPG" border="0" /></a><br /><div></div>♫ ♪ A p p l E ♫ ♪http://www.blogger.com/profile/14368934773581570373noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3383490451076114566.post-51681446167532465172009-06-12T01:43:00.000-07:002009-06-12T01:55:42.080-07:007.การเขียนโปรแกรมควบคุม การทำงานของอุปกรณ์เล็ดทรอนิกส์ ควรเลือกใช้ภาษาใด เพราะอะไรVisual Basic, C, C++, Java<br />เพราะ♫ ♪ A p p l E ♫ ♪http://www.blogger.com/profile/14368934773581570373noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3383490451076114566.post-53620609880074886912009-06-12T01:38:00.000-07:002009-06-12T01:43:31.731-07:006. ลักษณะของภาษาคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า ภาษาธรรมชาติไม่ต้องสนใจถึงคำสั่งหรือลำดับของข้อมูลที่ถูกต้อง ผู้ใช้เพียงแต่พิมพ์สิ่งที่ต้องการลงในเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นคำหรือประโยคตามที่ผู้ใช้เข้าใจ คอมพิวเตอร์จะพยายามแปลคำหรือประโยคเหล่านั้นเพื่อทำตามคำสั่ง แต่ถ้าไม่สามารถแปลให้เข้าใจได้ ก็จะมีคำถามกลับมาถามผู้ใช้เพื่อยืนยันความถูกต้อง♫ ♪ A p p l E ♫ ♪http://www.blogger.com/profile/14368934773581570373noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3383490451076114566.post-54718720810538406272009-06-12T01:34:00.000-07:002009-06-12T01:38:29.951-07:005. ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งออกเป็นกี่ประเภท จงอธิบายแบ่งได้ 4 ระดับ ได้แก่<br /><br />1.เพาเวอร์ยูสเซอร์ (power user) เป็นผู้ที่พยายามศึกษาโปรแกรมประยุกต์ในขั้นที่สูงขึ้น ทำให้มีความชำนาญในการใช้โปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ <br /><br />2.ผู้เชี่ยวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์ (computer professional) หมายถึงผู้ที่ได้ศึกษาวิชาการทางด้านคอมพิวเตอร์ ทั้งในระดับกลางและระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้จะนำความรู้ที่ได้ศึกษามาประยุกต์และพัฒนาใช้งาน และประสิทธิภาพของระบบคอมพิวเตอร์ให้ทำงานในขั้นสูงขึ้นไปได้อีก <br />3. นักเขียนโปรแกรม (programmer) ก็ถือว่าเป็นผู้เชียวชาญทางคอมพิวเตอร์เช่นกัน เพราะสามารถสร้างโปรแกรมใหม่ ๆ ได้ และเป็นเส้นทางหนึ่งที่จะนำไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์ต่อไป <br /><br />4.ผู้ใช้ หรือ ยูเซอร์ (user) เป็นใช้คอมพิวเตอร์บางส่วนก็ทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์เท่านั้น♫ ♪ A p p l E ♫ ♪http://www.blogger.com/profile/14368934773581570373noreply@blogger.com5tag:blogger.com,1999:blog-3383490451076114566.post-87681247298835722202009-06-12T01:33:00.000-07:002009-06-12T01:34:21.277-07:004. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หมายถึงอะไรโปรแกรมที่ใช้สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานอื่นๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ที่ไม่เกี่ยวกับตัวเครื่อง เช่น งานพิมพ์รายงานหรือข้อความ จะใช้โปรแกรมประเภทประมวลผลคำ การทำตารางบัญชี จะใช้โปรแกรมประเภทตารางทำการ งานนำเสนอ จะใช้โปรแกรมประเภทสร้างสื่อนำเสนอ เป็นต้น♫ ♪ A p p l E ♫ ♪http://www.blogger.com/profile/14368934773581570373noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3383490451076114566.post-78170647865225011752009-06-12T01:23:00.000-07:002009-06-12T01:33:12.046-07:003.ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์หมายถึงอะไรโปรแกรมที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ โดยเฉพาะส่วนที่ควบคุมและจัดการหน่วยความจำ จัดการนำงานของผู้ใช้มาดำเนินการ และจัดการการรับข้อมูลและแสดงผล ระบบปฏิบัติการที่ใช้ในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ทั่วไป เช่น ระบบปฏิบัติการ Windows , Linux , MS-DOS♫ ♪ A p p l E ♫ ♪http://www.blogger.com/profile/14368934773581570373noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3383490451076114566.post-7802604059178258562009-06-12T01:16:00.000-07:002009-06-12T01:21:32.734-07:002.rom และ ram มีความแตกต่างและประโยชน์อย่างไรROM: ROM เป็นคำย่อมาจาก “Read-Only Memory” ซึ่งหมายถึงหน่วยความจำที่ใช้อ่านได้อย่างเดียว เป็น memory chip ที่ทำหน้าที่เก็บแอปปลิเคชั่นและข้อมูลเป็นการถาวร และไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงระบบ ซึ่งแอปปลิเคชั่นและข้อมูลจะถูกเขียนหรือ burned เข้าไปในชิป โดยบริษัทผู้ผลิต ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่อยู่ในชิปได้ ถึงได้เรียกว่าอ่านอย่างเดียว (read-only)<br />RAM: RAM เป็นคำย่อของ “Random Access Memory” เป็น memory chips ที่จำเป็นของคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไป รวมทั้ง PDA ด้วย ส่วนของ RAM นี้ จะใช้สำหรับประมวลผลและเก็บไฟล์ข้อมูลชั่วคราว RAM มีความแตกต่างจาก ROM ในเรื่องของการเก็บรักษาข้อมูล RAM จำเป็นจะต้องมีกระแสไฟมาเลี้ยงเพื่อที่จะรักษาข้อมูลที่เก็บไว้ใน RAM Pocket PC รุ่นแรกๆ ก่อนที่จะใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile 5 จะใช้ RAM เก็บทั้งข้อมูลและโปรแกรม ดังนั้นผู้ใช้ PDA จำเป็นจะต้องคอยดูแลส่วนของแบตเตอรีไม่ให้กระแสไฟฟ้าหมด มิเช่นนั้น โปรแกรมและข้อมูลต่าง ๆ ที่เก็บไว้ใน RAM ก็จะหายไปทั้งหมด♫ ♪ A p p l E ♫ ♪http://www.blogger.com/profile/14368934773581570373noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3383490451076114566.post-70498224671537907022009-06-07T02:04:00.000-07:002009-06-12T01:15:56.458-07:001. หายุคของภาษาคอมพิวเตอร์มี 5 ยุค อะไรบ้าง-ยุคที่ 1 (First Generation Language : 1GL) เป็นภาษาระดับต่ำ (Low - Level Language) ประกอบด้วยเลขฐานสอง ได้แก่ 0 และ 1 หรือเรียกว่า "ภาษาเครื่อง (Machine Language)"<br /><br />-ยุคที่ 2 (Second Generation Language : 2GL) ได้มีผู้พัฒนาให้มีการใช้สัญลักษณ์แทนตัวเลขฐานสอง เรียกว่า "ภาษาสัญลักษณ์ (Symbol Language)" คือ ภาษาอังกฤษ จะเป็นคำสั่งสั้น ๆ ที่จำได้ง่าย เรียกว่า "นิวมอนิกโค้ด (Nemonic Code)" ทำให้นักเขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างภาษาสัญลักษณ์ ได้แก่ ภาษา Assembly และเนื่องจากเป็นภาษาสัญลักษณ์ จึงต้องใช้ตัวแปลภาษา เพื่อทำให้เป็นภาษาเครื่องก่อน ด้วยตัวแปลภาษาที่เรียกว่า "Assembler"<br /><br />-ยุคที่ 3 (Third Generation Language : 3GL) ภาษาสัญลักษณ์ได้มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถแทนตัวเลขฐานสองได้เป็นคำ ทำให้กลายเป็นภาษาที่มีไวยากรณ์ที่เข้าใจและเขียนได้ง่ายขึ้น คำสั่งสั้นและกระชับมากขึ้น เช่น ภาษา BASIC, COBOL, Pascal<br /><br />-ยุคที่ 4 (Fourth Generation Language : 4GL) ได้มีการพัฒนารูปแบบการเขียนโปรแกรมจากยุคที่ 3 ที่จัดว่าเป็นการเขียนแบบ Procedural ให้กลายเป็นการเขียนแบบ Non - Procedural ที่สามารถกระโดดไปทำคำสั่งใดก่อนก็ได้ตามที่โปรแกรมเขียนไว้ นอกจากนี้ จุดเด่นของภาษาในยุคนี้เริ่มจากการเขียนคำสั่งให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับข้อมูลในฐานข้อมูลได้ และพัฒนาต่อมากลายเป็นการเขียนคำสั่งให้ได้โปรแกรมที่มีส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบกราฟิกมากขึ้น และพัฒนาจนมาถึงการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object - Oriented Programming) เช่น ภาษา C++, Visual C++, Delphi, Visual Basic เป็นต้น ปัจจุบันมีภาษาที่ใช้หลักการของโปรแกรมเชิงวัตถุที่นิยมใช้ เช่น ภาษา Java<br /><br />-ยุคที่ 5 (Fifth Generation Language : 5GL) เป็นภาษาที่ใช้สำหรับพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System : ES) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ภาษาในยุคที่ 5 เรียกว่า "ภาษาธรรมชาติ (Natural Language)" คือ ไม่ต้องสนใจถึงคำสั่งหรือลำดับของข้อมูลที่ถูกต้อง ผู้ใช้เพียงแต่พิมพ์สิ่งที่ต้องการลงในเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นคำหรือประโยคตามที่ผู้ใช้เข้าใจ คอมพิวเตอร์จะพยายามแปลคำหรือประโยคเหล่านั้นเพื่อทำตามคำสั่ง แต่ถ้าไม่สามารถแปลให้เข้าใจได้ ก็จะมีคำถามกลับมาถามผู้ใช้เพื่อยืนยันความถูกต้อง♫ ♪ A p p l E ♫ ♪http://www.blogger.com/profile/14368934773581570373noreply@blogger.com7